ข้อมูลกติกาแบดมินตัน

กติกาแบดมินตันมีอะไรบ้าง ที่ควรรู้ก่อนเริ่มเล่น

Home / blog / เรื่องราวเกี่ยวกับแบดมินตัน / กติกาแบดมินตันมีอะไรบ้าง ที่ควรรู้ก่อนเริ่มเล่น

กติกาแบดมินตันมีอะไรบ้าง ที่ควรรู้ก่อนเริ่มเล่น

รู้ไหมว่ากติกาแบดมินตันที่แท้จริงนั้นมีรายละเอียดที่น่าสนใจและสำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าใครอยากพัฒนาฝีมือหรือเข้าร่วมการแข่งขันอย่างจริงจัง การเข้าใจกติกาต่าง ๆ อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เล่นได้สนุกขึ้น รวมถึงเป็นประสบการณ์ที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับกติกาแบดมินตัน ทั้งในแบบเดี่ยว แบบคู่ รวมถึงสรุปกติกาสำคัญทั้งหมดแบบเข้าใจง่าย พร้อมอัปเดตล่าสุด ใครที่กำลังอยากพัฒนาทักษะการเล่นแบดมินตันตั้งแต่เริ่มต้น ลองมาหาหาคำตอบเรื่องกติกาแบดมินตันในด้านต่าง ๆ ไปพร้อมกับเราได้เลย

สรุปประเด็นเนื้อหา

กติกาแบดมินตัน สรุปภาพรวมเบื้องต้น

ก่อนที่จะลงลึกถึงรายละเอียดของแต่ละประเภท เรามาดูกันก่อนว่ากติกาแบดมินตันพื้นฐานนั้นมีอะไรบ้าง ตั้งแต่สนาม อุปกรณ์ ไปจนถึงการนับแต้มและการเปลี่ยนฝั่ง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ผู้เล่นทุกคนควรรู้

สนามและอุปกรณ์สำหรับการเล่นแบดมินตัน

กติกาแบดมินตัน ในเรื่องสนามมาตรฐานจะมีขนาดแตกต่างกันเล็กน้อย ระหว่างประเภทเดี่ยวและประเภทคู่ โดยมีความยาว 13.4 เมตร และกว้าง 5.18 เมตร (เดี่ยว) หรือ 6.1 เมตร (คู่) ส่วนความสูงของตาข่ายอยู่ที่ 1.55 เมตร อุปกรณ์หลักที่ใช้คือ ไม้แบดมินตันกับลูกขนไก่ (สามารถใช้ลูกพลาสติกได้ในการเล่นทั่วไป) การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ให้เหมาะสมกับระดับผู้เล่นจะช่วยในเรื่องการเล่นมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้มากขึ้น

ระบบการนับคะแนนในกติกาแบดมินตัน

กติกาแบดมินตัน ด้านการนับคะแนนใช้ระบบการนับแบบ Rally Point System หมายความว่าไม่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้เสิร์ฟ ทุก ๆ การตีพลาดหรือทำคะแนนได้จะมีการเพิ่มแต้มให้ทันที โดยเล่นแบบ 2 ใน 3 เกม เกมละ 21 แต้ม ผู้ที่ถึง 21 แต้มก่อน (โดยมีแต้มทิ้งห่างฝ่ายตรงข้ามอย่างน้อย 2 แต้ม) จะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น หากเกมเสมอที่ 20-20 จะต้องเล่นต่อจนกว่าฝ่ายใดจะทำคะแนนนำได้ 2 แต้ม หรือถึง 30 แต้ม ซึ่งเป็นแต้มสูงสุดที่กำหนดไว้

กติกาการเสิร์ฟและการเปลี่ยนฝั่ง

การเสิร์ฟในกติกาแบดมินตันต้องอยู่ในแนวทแยงมุม และลูกต้องอยู่ต่ำกว่าระดับเอวขณะสัมผัสไม้ ผู้เสิร์ฟต้องอยู่ในพื้นที่เสิร์ฟที่กำหนด เท้าไม่เหยียบเส้นขณะทำการเสิร์ฟ ถ้าเป็นเกมประเภทคู่ จะมีลำดับการเสิร์ฟที่ต้องจำให้แม่น โดยจะมีการเปลี่ยนฝั่งเมื่อจบเกม หรือเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ 11 แต้มในเกมตัดสิน (เกมที่สาม) ซึ่งการเปลี่ยนฝั่งจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้รับประสบการณ์การเล่นในสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียมกัน เช่น แสงไฟ ลม หรือสภาพพื้นสนาม

กติกาแบดมินตัน 17 ข้อ ฉบับมาตรฐานสากล

สำหรับผู้เล่นแบดมินตันทั่วไป อาจไม่เคยได้ยินคำว่ากติกาแบดมินตัน 17 ข้อมาก่อน แล้วสงสัยว่ามีอะไรบ้าง เดี๋ยวเราจะช่วยสรุปให้เข้าใจง่าย โดยกติกาแบดมินตันทั้ง 17 ข้อนี้เป็นข้อกำหนดอย่างเป็นทางการโดยสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เรื่องสนาม อุปกรณ์ วิธีการเล่น ไปจนถึงข้อห้ามต่าง ๆ และรายละเอียดการตัดสินในสถานการณ์พิเศษต่าง ๆ ในสนามแข่งขัน

กติกาแบดมินตัน 17 ข้อจาก BWF

1. สนาม: สนามแบดมินตันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งเป็นสองฝั่งเท่าๆ กัน โดยมีตาข่ายขึงตรงกลาง

2. ลูกขนไก่: ลูกขนไก่ทำจากขนเป็ดหรือวัสดุสังเคราะห์ ปักลงบนฐานทรงกลม

3. แร็กเกต: แร็กเกตต้องมีน้ำหนักและขนาดที่กำหนดไว้

4. การเสี่ยง: ก่อนเริ่มเกม ผู้เล่นจะเสี่ยงทายเพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นฝ่ายส่งลูกก่อน

5. การส่งลูก (เสิร์ฟ): การส่งลูกต้องส่งในแนวทแยงมุม โดยลูกขนไก่ต้องอยู่ต่ำกว่าระดับเอวของผู้เสิร์ฟ 

6. ระบบการนับคะแนน: ผู้เล่นจะได้รับ 1 คะแนนเมื่อฝ่ายตรงข้ามทำลูกเสีย หรือลูกไม่อยู่ในการเล่น 

7. การเปลี่ยนข้าง: ผู้เล่นจะเปลี่ยนข้างเมื่อจบเกมแรก หรือเมื่อมีการเล่นเกมที่สามและฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำคะแนนได้ 11 แต้ม 

8. ประเภทเดี่ยว: ผู้เล่นแต่ละฝ่ายมีผู้เล่นคนเดียว 

9. ประเภทคู่: ผู้เล่นแต่ละฝ่ายมีผู้เล่นสองคน 

10. ความผิดในสนามส่งลูก: การส่งลูกผิดกติกา เช่น ลูกขนไก่ไม่ข้ามตาข่าย หรือผู้เล่นเหยียบเส้นขณะส่งลูก 

11. การทำเสีย (Fault): ผู้เล่นทำเสียเมื่อลูกขนไก่ตกนอกสนาม, แร็กเกตโดนตาข่าย, หรือผู้เล่นถูกตัว 

12. การเล่นใหม่ (Let): ในบางกรณีที่การแข่งขันหยุดชะงักเนื่องจากเหตุสุดวิสัย เช่น ลูกขนไก่เข้าไปติดในตาข่าย กรรมการจะสั่งให้มีการเล่นใหม่ (Let) โดยไม่มีการนับคะแนน 

13. ลูกไม่อยู่ในการเล่น: เมื่อลูกขนไก่ตกบนพื้น หรือถูกผู้เล่นคนใดคนหนึ่งตีออกไปนอกสนามถือว่าลูกไม่อยู่ในการเล่น 

14. การเล่นต่อเนื่อง: ผู้เล่นจะต้องเล่นลูกขนไก่ต่อเนื่องจนกว่าลูกจะตกถึงพื้น หรือมีการทำเสีย 

15. การทำผิด (Foul): การกระทำผิดกติกา เช่น การกระโดดข้ามตาข่าย, การใช้ร่างกายส่วนอื่นนอกจากแร็กเกตตีลูก, หรือการรบกวนคู่ต่อสู้ 

16. การลงโทษ (Penalty): ผู้เล่นที่ทำผิดกติกาอาจถูกลงโทษโดยการถูกหักคะแนน หรือถูกปรับแพ้ 

17. กรรมการ: การแข่งขันแบดมินตันมีกรรมการสนามทำหน้าที่ตัดสิน และอาจมีกรรมการอุทธรณ์ในกรณีที่มีการประท้วง

สิ่งที่ผู้เล่นมือใหม่ควรทำความเข้าใจในกติกา

สำหรับผู้เล่นมือใหม่ ไม่จำเป็นต้องจำกติกาแบดมินตันทุกข้อเป๊ะ แต่ควรเข้าใจเรื่องการนับแต้ม การเสิร์ฟที่ถูกต้อง ขอบเขตของสนาม และสิ่งที่ถือว่าเป็นฟาวล์ เช่น การตีลูกติดเน็ต การเหยียบเส้นขณะเสิร์ฟ หรือการรบกวนคู่ต่อสู้ เพื่อจะได้เล่นอย่างมั่นใจมากขึ้น และสนุกไปกับเกมอย่างไม่มีข้อสงสัยหรือข้อผิดพลาดที่เกิดจากความไม่รู้

ความแตกต่างระหว่าง กติกาแบดมินตันเดี่ยว และ กติกาแบดมินตันคู่

แม้ว่าจะใช้กติกาแบดมินตันเดี่ยวกันเป็นพื้นฐาน แต่เมื่อเปลี่ยนจากเกมเดี่ยวเป็นเกมคู่ รายละเอียดปลีกย่อยจะเปลี่ยนไปพอสมควร เช่น พื้นที่สนาม ลำดับการเสิร์ฟ การเปลี่ยนฝั่ง และการเคลื่อนที่ในสนาม ซึ่งผู้เล่นควรทำความเข้าใจให้ดีเพื่อไม่ให้เสียเปรียบในเกมจริง และเพื่อเพิ่มความสนุกและความมีจังหวะในการเล่นที่เข้าขากันมากขึ้นในประเภทคู่

พื้นที่สนามที่ใช้ และการจัดตำแหน่งผู้เล่น

สนามประเภทคู่จะกว้างกว่าแบบเดี่ยว โดยเพิ่มพื้นที่เส้นข้างให้กว้างขึ้น ทำให้วิธีการยืน การครอบคลุมพื้นที่สนามต้องวางแผนร่วมกันระหว่างคู่หูให้ดี การรู้จักตำแหน่งของตัวเองกับเพื่อนร่วมทีม จะช่วยลดการชนกัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการรับลูกและโจมตีคู่ต่อสู้

วิธีการเสิร์ฟและลำดับการเปลี่ยนฝั่ง

เกมคู่จะมีลำดับการเสิร์ฟที่ซับซ้อนกว่าแบบเดี่ยว เพราะต้องมีการสลับตำแหน่งกันระหว่างคู่หู และต้องจำให้ได้ว่าใครเป็นผู้เสิร์ฟ ใครเป็นผู้รับในแต่ละแต้ม ซึ่งจะส่งผลต่อกลยุทธ์ของเกม เช่น การวางตำแหน่งผู้เล่นที่มีทักษะรับหรือบุกได้ดีกว่าในตำแหน่งที่เหมาะสม

การนับคะแนนและการจบเกม

แม้กติกาแบดมินตันการนับแต้มจะใช้ระบบเดียวกัน (Rally Point) แต่เกมคู่มีไดนามิกของเกมที่เปลี่ยนเร็วกว่า และต้องอาศัยความเข้าใจระหว่างคู่หูเป็นพิเศษ การจบเกมจะเหมือนเกมเดี่ยว คือแข่ง 2 ใน 3 เกม เกมละ 21 แต้ม แต่ความเร็วของเกมและการโต้ตอบกันในประเภทคู่จะมีความหลากหลายและรวดเร็วมากกว่าประเภทเดี่ยว ทำให้ผู้เล่นต้องมีปฏิกิริยาที่ไว เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ดีนั่นเอง

ข้อควรรู้ และมารยาทในสนามแบดมินตัน

นอกจากกติกาแบดมินตันแล้ว การเล่นแบดมินตันอย่างมีมารยาทก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บรรยากาศในสนามน่าเล่นและเป็นมิตร ทั้งการเคารพคู่ต่อสู้และผู้ตัดสิน การแต่งกายที่เหมาะสม ไปจนถึงการใช้อุปกรณ์อย่างถูกวิธี ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้แม้ไม่ได้เขียนไว้ในกติกา แต่ถือเป็นวัฒนธรรมที่ดีในวงการแบดมินตัน และช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้เล่นเอง

มารยาทในสนามแบดนอกเหนือจากกติกา
มารยาทที่ดีในสนามแบดนอกเหนือจากกติกา

การเคารพคู่ต่อสู้และผู้ตัดสิน

การทักทายก่อนและหลังการแข่งขัน การยอมรับคำตัดสิน โดยไม่แสดงอาการหยาบคาย ล้วนเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติในทุกระดับการแข่งขัน รวมถึงการไม่แสดงความดีใจอย่างเกินพอดีเมื่อคู่ต่อสู้ทำพลาด เพราะถือเป็นการให้เกียรติและรักษาน้ำใจของเพื่อนร่วมสนาม

การแต่งกายและอุปกรณ์ที่เหมาะสม

ผู้เล่นควรแต่งกายด้วยชุดกีฬาที่เหมาะสม และใช้รองเท้าแบดมินตันที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการลื่นหรือบาดเจ็บ รวมถึงใช้ไม้และลูกที่มีคุณภาพดี เพื่อให้การเล่นราบรื่น ปลอดภัย นอกจากนี้ การสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี ใหเเหมาะกับการเคลื่อนไหวรวดเร็วของกีฬาแบดมินตันก็จะช่วยให้ผู้เล่นเคลื่อนไหวได้คล่องตัวมากขึ้น

เทคนิคการเริ่มต้นฝึกแบดมินตันอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ทักษะพื้นฐาน เช่น การจับไม้อย่างถูกวิธี การตีลูก และการเคลื่อนที่ในสนาม รวมถึงฝึกสมรรถภาพทางร่างกายเพื่อให้เล่นได้ดีขึ้นในระยะยาว การหาโค้ชที่มีประสบการณ์ หรือเข้าร่วมคลาสสอนแบดมินตันเบื้องต้น ก็จะช่วยให้เข้าใจเทคนิคต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น และยังสร้างพื้นฐานที่ดีสำหรับพัฒนาฝีมือในอนาคต

สรุปส่งท้าย กติกาแบดมินตัน ที่ทุกคนควรรู้ก่อนลงสนามจริง

เมื่อเข้าใจกติกาแบดมินตันแบบสรุปแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นประเภทเดี่ยวหรือคู่ ก็จะสามารถเล่นได้อย่างสนุก มั่นใจ และถูกต้องมากขึ้น การรู้กติกายังช่วยเสริมสร้างมารยาทในสนาม และทำให้คุณสามารถมีส่วนร่วมในชุมชนแบดมินตันได้อย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเล่น และพัฒนาฝีมือไปด้วยกัน ส่วนใครที่อยากรู้จักประวัติศาสตร์แบดมินตันระดับโลก มาจนถึงประเทศไทย ลองคลิกเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย

What's New​